Latest Post

สูตรบาคาร่าเซ็กซี่ ชนะยังไม่พอ “เลสเตอร์” เฉือน “เวสต์แฮม” แต่ยังตกชั้น “พรีเมียร์ลีก” ในรอบ 9 ปี

กกพ. เคาะค่าไฟฟ้างวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 66 ใน 3 อัตรา ถูกสุด 4.77 บาทต่อหน่วย

เศรษฐกิจ

จากแนวโน้มสถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดจร (Spot LNG) มีแนวโน้มราคาลดลง ปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่ทยอยปรับเพิ่มขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยนที่แกว่งตัวในระดับต่ำ ประกอบกับภาคนโยบาย (กพช.) ไม่มีนโยบายขยายเวลาการจัดสรรก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยให้ประชาชนก่อน ส่งผลให้ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมและประชาชนต้องจ่ายค่าเอฟทีในอัตราเดียวกันที่สะท้อนสมมุติฐานที่ทำให้ค่าใช้จ่ายประมาณการเอฟทีในรอบ พ.ค. – ส.ค. 2566 อยู่ในระดับที่ดี

ดังนั้น กกพ. จึงเสนอรับฟังความเห็น 3 ทางเลือกในการจ่ายคืนภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง (คงค้าง) กฟผ. ในอัตรา 293.60 105.25 และ 98.27 สตางค์ต่อหน่วย

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. ในการประชุมครั้งที่ 12/2566 (ครั้งที่ 840) เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 มีมติรับทราบภาระต้นทุนค่าเอฟทีประจำรอบ ก.ย. – ธ.ค. 2565 และเห็นชอบผลการคำนวณประมาณค่าเอฟทีสำหรับงวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 66 พร้อมให้สำนักงาน กกพ. นำค่าเอฟทีประมาณการและแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง กฟผ. ไปรับฟังความคิดเห็นในกรณีต่างๆ ดังนี้

กรณีที่ 1 (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างใน 1 งวด) ค่าเอฟทีเรียกเก็บประจำงวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 66 จำนวน 293.60 สตางค์ต่อหน่วย แบ่งเป็นเอฟทีขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน พ.ค.-ส.ค. 66 จำนวน 63.37 สตางค์ต่อหน่วย และเงินเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ. ทั้งหมด หรือเงินภาระต้นทุนคงค้างสะสมเดือน ก.ย. 64–ธ.ค. 65 จำนวน 150,268 ล้านบาท คิดเป็น 230.23 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 6.72 บาทต่อหน่วย ตามรายงานการคำนวณตามสูตรเอฟที

ข่าวเศรษฐกิจอัพเดท : มุมมองทรีนีตี้